วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2562

"เรื่องเล่า ฝันในฝันเทวานิน"...เจ้ากรรมนายเวรของสาวโรงน้ำชา


เจ้ากรรมนายเวรของสาวโรงน้ำชา
................................................
ก็เป็นเรื่องความฝันของ เทวานิน ที่ชอบนอนฝันหวาน
เพื่อนๆบอกว่า พี่เล่าความฝันให้ฟังบ้าง เพราะ ชอบให้คนแก่เล่านิทาน
ผมก็บอกว่า ไอ้นิทานนี่ดีมีคติ แต่นี่ คนเล่าเข้าข่ายคนบ้า
คนฟังก็ต้องเพี้ยนตามนะครับ มันถึงจะไปด้วยกันได้

เมื่อคืนหลับไปฝันว่า มีเจ้ากรรมนายเวรมา ทวงชีวิต หรือ ทวงอะไร
และมีเสียง ยุแยง เข้าใจว่าเป็น "มาร"
มารมีหลายประเภท ที่เป็นผีหรือเทวดาก็มี
แต่มารที่น่ากลัวคือ กิเลสมาร คือ กิเลสเราที่คอยหลอกเรา

ก็มีเสียงคอยบอกว่า สู้ได้ ถ้าตกลงให้เขาจัดการ
เขาจะจัดการ เจ้ากรรมนายเวร ทำอะไรไม่ได้
ไอ้เรานี่หลับ คนหลับก็ฝันไปเรื่อย ก็เลยนึกว่า พ่อแม่ครูอาจาร์ยสอนให้มีแต่เมตตา
แต่ความรู้สึกกลัวก็มี กลัวว่าจะมีอุบัติเหตุถึงเสียชีวิต ระหว่างที่ทบทวน
ภาพก็ปรากกฏว่า มีคนมาล้อม
พอแบบนี้ ในขณะที่ท่านมารก็ยุยงต่อว่า
บอกเราคำเดียวให้เป็นหน้าที่เรา

ก็ถามท่านมารว่า ท่านจะทำอย่างไร
ท่านมารก็ไม่ตอบ ขณะที่เงาดำ ก็มาล้อมเหมือนยกดาบจะฟัน
แต่ไม่รู้เจ้ากรรมนายเวรที่พวกไหน เราไปทำเขามาขนาดไหน
หมดทาง ก็ก้มกราบพระ แล้วก็นึกถึงหลวงปู่ที่ท่านบอกว่า
พระพุทธเจ้ารักพระเทวทัตเท่ากับพระราหุล
พอนึกแบบนี้ก็มีเมตตาขึ้นมาเล็กน้อย

แต่ไอ้ความกลัวตายยังมี ก็นึกว่าเอาวะ
ก็เราไม่รู้ว่าเรื่องเก่าคืออะไร เราไม่โต้ตอบ
แต่ต้องการรุ้ก่อน ฉะนั้น ถอยโดยไม่ต่อสู้
อิอิ ดูดีแต่จริงๆก็กลัวนั่นละ 5555555

จึงขอบารมี ท่านเทวดาผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง
ก็ไม่นึกว่าท่านจะเมตตา ยังปลื้มใจจนตอนนี้
แว๊บเดียว มีกำลังมหาศาล ลากจิตขึ้นไปในท้องฟ้า
ยังกับจรวด โอ้ กำลังของท่านมหาศาล
เทวดาที่เคยพาไปเที่ยวไม่มีใครมีกำลังขนาดนี้
ขณะกำลังลอยไปบนท้องฟ้าก็รู้ว่า ท่านจะพาไปดางดึงส์
ท้องฟ้าสวยงามขึ้นเรื่อยๆ มีหลายสี ฟ้า ชมพู สวยงาม

ก็เลยบอกท่านว่า เอาแค่นี้ก่อนครับท่าน พอนึกเท่านั้น
เหมือนยังค้างใจอะไรไม่อยากไป ภาพปรากฏทันที
เห็นหญิงสาวขาวๆแต่งตัวคล้ายๆคนจีน กำลังปีนขึ้นไปบนโต๊ะ และเอาผ้ามาเช็ด
ทำความสะอาดโต๊ะเก้าอี้ ซึ่งส่วนมาก ทำจากไม้ไผ่

ก็รู้ทันที่ว่า ตนเองนั่นเองในอดีตชาติ
เวงกำ ตูดันมากเกิดเป็นสตรี
สถานที่เห็นสะอาดตา เป็นระเบียบ
แต่ไม่เหมือนบ้าน มีแต่หญิงสาวกำลังทำความสะอาด

เห็นเทวดาหญิง 2 ตน ก็ทราบว่าก๊วนกัน เลยถามท่านไปว่า ที่ใดสมัยใดละท่าน
พอสรุปได้ว่า หลังจากสมเด็จพระเวสภูพระพุทธเจ้าแล้ว
มีช่วงว่างจากพระศาสนา ก่อนภัทรกัปป์ ก่อนสมเด็จพระพุทธกกุสันโธจะตรัส
ช่วงนั้น พระศาสนาไม่มี คุณมาเกิดเป็นหญิงคนนี้
ก็ถามท่านว่า ช่วงนั้นมี พระปัจเจกพระพุทธเจ้าตรัสไหม
ท่านตอบว่าไม่มี

ถามต่อว่า บริเวณใด ของโลก ระบุแผนที่ Google mapให้หน่อย
จะไปเขียนเป็นธรรมทาน เอาให้ชัดข้อมูลต้องดี
ท่านบอกว่า โลกสมัยนั้น ย้อนไปเกือบ 1 กัปป์ แผ่นดินไม่เป็นเหมือนปัจจุบัน
แต่พอคาดตำแหน่งว่า ด้านตะวันออกของจีนช่วงนั้น
ใกล้ๆทะเล แต่แต่ดินคนละแบบนะ

ก็ถามท่านว่า ผมคือหญิงคนนี้มาเกิดทำอะไร
ท่านก็แสดงให้เห็น มีชายคนแก่สัก 60-70 ชุดดำดูมีฐานะ ภูมิฐานเหมือนชาวจีนนะ
ท่านนี้แวดล้อมด้วยสาวๆ และ ผมก็คือหนึ่งในนั้น
เห็นสุภาพสตรี อายุ 15 - 30 เกือบ 10 คน มีทั้งผอม ทั้งอ้วน

ทราบว่า บุรุษท่านนี้เป็นเจ้าของ "โรงน้ำชา"
จริงๆไม่ใช่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรี
แต่เป็นบ้านที่สะอาดตา ทำจากไม้ไผ่ เป็น แหล่งเริงรมย์สมัยนั้น
เห็นนางสตรี รวมทั้งเราเองด้วย
ที่แต่งตัวประมาณกระโปรงสั้น สั้นไม่ได้มากนัก
ใส่เสื้อแขนกุด ชุดเดียวกัน เรียกอะไรไม่ทราบ คือ เสื้อกับกระโปรงติดกัน
ทุกคนใส่แบบนั้นมีลายดอกไม้ สีอ่อนออกเหลือง สวยสะอาด

สถานที่แห่งนี้ ตอนเย็นจะมีชายมานั่งกินเหล้า และ ชมนางทั้งหลาย
นางเหล่านี้จะขึ้นบนเวที และทำการแสดง ประมาณร่ายรำ หรือเดินไปมา
ชายเหล่านั้นก็จะมองดู เจ้าของนี่ไม่ใช่บังคับมา
หญิงเหล่านั้นล้วนเป็นบุตรหลานหรือคนในที่มาฝากไว้ เพื่อทำอาชีพนี้
ไม่ทราบว่ามีการขายประเวณีหรือไม่
ทราบแต่ว่าเหมือนเดินแบบ และเป็นการยินยอม
เพราะสาวๆ ล้วนได้การเลี้ยงดูจากเจ้าของโรงน้ำชาตั้งแต่เด็กมา เลยเลี้ยงดูดี

เทวดานี่ท่านละเอียดมาก ท่านบอกว่าให้ดูจริตสาวๆพวกนี้ด้วยนะ
ผมก็มองเห็นว่า แต่ละนางนี่ไม่ธรรมดา
เวลาเดินไปหน้าเวที ก็ทำอ้อนบ้าง ทำยกแขนบ้าง ด้วยเสื้อที่ไม่มีแขน
และ บางนางก็มีจริตแกล้งให้ชม ในสิ่งต่างๆ
แต่ก้ไม่มากนัก พอมองเห็นว๊อบๆแววนิดหน่อย แต่น้อยมาก
สาวๆสมัยนี้นุ่งสั้นกว่ามาก สมัยนั้นเห็นแค่ขาอ่อน
ไอ้พวกชายที่มาดูก็เฮฮา กัน ตบมือกันใหญ่

นี่ ตัวผมก็เกิดเป็นหญิง 1 ในนั้น
ตัวเล้กๆไม่อ้วนไม่สวย พอดูได้ 555555555555

เทวดา ที่พามา 
ต้องเรียกนางฟ้ามากกว่า ท่านบอกว่า เห็นคนอ้วนไหม
มีสาวอ้วน นั่นละ ดารา ประจำโรงน้ำชา

อจ๊ากกกกกกกกกก สมัยนั้นเขาชอบคนเนื้อนิ่ม 
เทวดาบอก เนื้อนิ่ม จริงๆไม่ใช่อ้วน แต่กดดูนิ่มๆ 55555555555
เป็นค่านิยม คนที่เป็นเจ้าของ ก็จะจับเด็กๆ เลี้ยงแบบทำให้เนื่อนิ่มๆ บางทีก็ตีบ้าง
ทำให้เนื้อไม่แข็งมาก และออกอวบๆหน่อยคนชอบ
เออเข้าท่า โลกนี้มันว่าไปตามสมัยนะ

พอมาถึงตรงนี้ก็ถามต่อว่า แล้วไงท่าน ตกลงเจ้ากรรมนายเวรผมอย่างไร ยัง งง อยู่
ท่านบอกเอางี้เริ่มใหม่ ย้อนกลับไปชาติแรกที่มาเกิดในสังคมโลกีย์ 
ภาพปรากฏทันที ตัวเราเป็นชาย เด็กชายวัยรุ่นชุดดำ 
กำลังถือ พัดคล้ายตาลปัตรใหญ่ๆมาก
อาการนั่งยองๆ เอาพัดปิดประตูไว้ นางโชว์แอบอยุ่หลังพัด
พอดนตรีขึ้น ตัวผมก็โดดหลบลงข้างเวที
สาวๆ เดินออกมา พวกหนุ่มตบมือกันสนั่น

เทวดาบอกมาผมมาเกิดเป็นเด็กรับใช้
ตายจากเด็กรับใช้แล้วก็มาเกิดเป็น สาวในกลุ่มนางโชว์ นี่เป็นอย่างนี้
มันวนเวียนอยุ่แต่ในกลุ่มโลกีย์นั่นละ หนีไปไม่ได้ ก็ถามต่อ เอา
แล้วเจ้ากรรมนายเวรที่มาทวงหนี้ผมคือใคร
ก็ทราบทันทีว่า เจ้าของคณะนางโชว์ เอ้าไงวะ

ภาพปรากฏว่า เราก็เดินบนเวที มีความรุ้สึกเดินตามหน้าทีนะ
ไม่ได้มีความรุ้สึกบวกหรือลบ ก็เลยทราบว่า พวกทำอาชีพพวกนี้ในปัจจุบัน
น่าจะคิดว่าเป็นงานเพื่อแลกกับเงิน ทำมันตามหน้าที
ทีนี้ไอ้หนุ่มที่มาดู มันก็มีแอบชอบนางโชว์
นางโชว์นี่แทบไม่ได้โชว์โป๊กระโปรงยาวกว่า
สาวที่ทำงานผมเยอะเลย ก็แอบมาชอบเพราะนางสวย
แต่งตัวดี สะอาด ตัวนิ่ม 55555555555

พอนึกแบบนี้ก็รุู้สึก ลำบากใจนะครับ
เพราะ คนฝันที่เป็นชายแท้ สมัยหนุ่มๆผมก็สาวเยอะ
ก็นึกว่า เออเรานี่หนีเรื่องพันนี้ไม่พ้น 5555555
ไอ้หนุ่มมันก็มาดักฉุด ฉุดเอาไปทำเมีย
ผมก็เออ นี่ตรูเคยโดนชายฉุดด้วย 55555555 นึกแล้วทำใจไม่ถูก เวงกำจริงๆ

ฉุดหายไป เจ้าของโรงน้ำชา หาตัวไม่เจอ ก็คิดว่าหนีไปกับชาย
ป๊ะ เข้าใจแล้ว เจ้าของแกก็โกรธเคือง โห เล่ามาตั้งนานเพิ่งเข้าใจ 5555
เดาว่าเจ้าของโรงน้ำชาตายไปแกคงตกนรก
เดาเอาว่านานเกือบกัปป์จะจริงหรือเปล่าเทวดาไม่ได้บอก
นึกเอาเอง พอแกพ้นโทษ ผ่านมาเจอผมนอนอยู่
ก็เห็นเป็นนางโชว์ที่แกเคยเลี้ยงดูมา
เข้าใจว่านางนี่ หนีตามชายไป

เห็นไหมครับว่า ผีก็เข้าใจผิดได้เหมือนคน
ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วจะทราบหมด ไม่รู้ทราบมายังไงก็ยังงั้น
ก็เคืองแค้น ไอ้ผมก็อกัตตญู
เป็นเมียเขาแล้วก็ไม่เคยไปทดแทนพระคุณเจ้าของโรงน้ำชา
แต่ก็ไม่ทราบเพราะอะไร อาจกลัวสามี

เอาว่าเรื่องนี้ทำให้รุ้ว่า...
1. คำว่าเจ้ากรรมนายเวรที่โกรธเราอาจเข้าใจกันไม่ตรงก็ได้
ก็ไม่ควรกลัวหรือทำร้ายกัน ให้พูดคุยและมีเมตตา อโหสิกันนะครับ หาวิธีนะครับ 
ส่่วนเจ้ากรรมนายเวร ที่เราเคยทำเขาก็มาก มาทุกวัน ต้องขอขมาบ่อยๆนะครับ 
และอุทิศบุญให้ทุกชีวิตทุกวัน
ดังที่ผมจัดกิจกรรม ทาน ศีล ภาวนา บังคับให้เพื่อนๆอุทิศบุญที่ทำดีทุกวันห้ามขาด
ก็เพื่อจะได้หลุดกรรมเวรซึ่งกันและกันนะครับ

2. การเกิดของชีวิตเป็นมหันตทุกข์
ถ้าทำความดี ให้อธิษฐานคุ้มไม่ให้ไปเกิดในที่ที่จะทำให้ตกต่ำเด็ดขาด 
ให้อธิษฐานว่า ถ้าเรายังไม่ถึงนิพพาน ให้เกิดเจอพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า
ให้มีสัมมาทิฏฐื และ เจอบัณฑิต ให้อยุ่ในปฏิรูปเทศ คือ เขตที่ไม่มีสงคราม ไม่มีการทำร้ายกัน ไม่มีอบายมุข ไม่ไปหลงและเกี่ยวข้องกับ ทางฉิบหาย ทางเสื่อม
ไม่เจอเพื่อนเลว ไม่เจอคนพาล ไม่อยุ่ในครอบครัว
มิจฉาทิฏฐิ ไม่งั้น ท่านจะเหมือนผมหลงวนเวียนไป กว่าจะกลับมาได้ นานครับ

3. เทวดาบอกว่าเศษกรรมจากการเป็นนางโชว์ ติดนิสัยมาอยู่ทุกวัน
คือ เวลาเจอสาวๆ นุ่งสั้นแล้วจะชอบมอง จริงไหม
อิอิ อิอิ ไม่ตอบครับ 555555555555
เออ เราไปโชว์ไว้ก่อน กลับมาก้มาต้องชอบเรื่องนี้
ฉะนั้น น้องๆสาวๆที่ชอบนุ่งสั้น ต้องระวังนะครับ
เล็กๆน้อยๆนี่ละครับ ก็มีกรรมชาติใดเกิดเป็นชาย
ก็ต้องวนเวียนเรื่องนี้ ถ้าไม่มีศีลกำกับก็กลับไปตกต่ำ

เล่ามาตั้งนาน ฝันนะครับ ฝันจนเหนือย
ฝันละเอียดแบบนี้มีคนเดียว เทวานิน แก็งค์ลุกหมี 
อิอิ 555555555555

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562

"เรื่องเล่า ฝันในฝันเทวานิน"...ผีเปรต


ผีเปรต
....................
หลังจากไปเมืองพญานาค มาหลายตอน
ครั้งก่อน ไปดูผี ที่มีกรรมฆ่าสัตว์ปีก และกลายเป็นผีอยู่ใต้ต้นไม้
และ ไปคุยกับ นางฟ้าคนธรรพ์ ที่ชีวิตเป็นนางแบบ
เสพยาจนตาย แต่ จิตก่อนตายดีจนพ้นนรก

รอบนี้ ยังฝัน วนๆกับเรื่องผีต่อไป
กลางดึกสักตี 4 พอรู้ว่าฝัน ก็รอสักพัก รอบนี้ทำใจเบาๆในฝัน
ไม่เห็นมีเทวดา นางฟ้า พาไปเที่ยว รอสักพัก ก็เลยเอาวะ ไปเอง
วิธีไปเพื่อนๆก็คุ้นกัน ต้องอาศัยบารมีพระรัตนตรัย ก็ขอบารมีพระนั่นเอง
พออาราธนาจบก็ลอยไป การลอยแบบนี้ไม่โลดโผนเหมือนเทวดาพาไป

เทวดาแกจะมีลูกเล่น หมุนมาหมุนไป ก่อน
แล้วแต่ท่านที่พาไป ถ้านางฟ้าก็เหาะไปตรงๆ
เต็มที่ก็มีถอยหลัง แต่พวกพญานาคนี่ มีมุดดิน
ก็นึกว่า รอบนี้อยากดูเปรตบ้างไม่เคยเห็นในฝันเลย
เราอาศัยฝันนี่ สบาย เพราะไม่มีความดีอะไร
ไม่มีสมาธิ ไม่มีณาน ใช้ฝันหวานไป

พอนึกเท่านั้น ก็ปรากฏภาพต้นไม้ใหญ่
ต้นไม้นี้แปลก มันมีลำต้นหลายลำต้น
เหมือนเป็นรากอากาศ ประมาณ 4-5 ลำต้น
เอาละจะได้ปีนไปดูเปรต เพราะเปรตตัวสูง มองไปไกลๆจะได้เห็น

อยู่ห่างๆกัน เทวดาไม่ได้พามา ก็ปีนขึ้นไปเอง
นึกถึงเทวดาก็ตรงนี้ ไม่ต้องปีน ปีนไปเรื่อยๆ ต้นไม้อะไรไม่มีใบ
ปีนไปได้สักพัก ก็มองไปในท้องทุ่ง
มองไปมา เปรตอยู่ไหนหนอ เปรตตัวสูงๆ
มองเห็นทิวเขา ต้นไม้ ไม่เห็นมีเปรต

ก็ปีนไปอีกนิด ไปเจอโพรงอะไรไม่รู้ ก็เข้าไป
พอเข้าไป แปลก ไอ้โพรงไม้นี่ มันขยับได้
เอาแล้วไง ตรูแล้ว
อจ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

พื้นขยับเบาๆ พื้นเป็นไม้แข็ง ด้านบนเหมือนหลังคา
เออะไรวะ เหมือนเข้ามาอยุ่ในปากใคร เหมือนมีลิ้น
แต่ไม่ใช่ มันอะไรวะ

พอรู้ว่า ตรูเข้ามาในตัวเปรตแล้ว
ก็รวบรวมกำลังใจ ถามไปว่า ท่านๆ เป็นเปรตหรือเปล่า
เสียงเบามาก ต้องถามไปหลายครั้ง และตั้งใจฟัง
เสียงเบาอ่อนๆ บอกว่า ใช่

พื้นแข็งขยับไปมา ตลอด ตัวก็โอนเอนไปมา
เอาวะ มองไม่เห็นตัวเปรตแต่ดันมาอยู่ในตัวเปรต
คิดว่า เปรตในโลกนี่กรรมเบาแล้ว แต่ยังหนักกว่าผี
ก็นึกอุทิศบุญให้ พออุทิศบุญให้แล้ว

ภาพหายหมด พื้นที่แข็งเพราะเป็นต้นไม้ที่เรายืนก็หายไป
วับเดี๋ยว มองไม่เห็นอะไร ก็ถามไปในความมืดๆว่า
ท่านๆ พ้นจากเปรตยัง ก็มีเสียงเบาๆ ฟังไม่ออกหญิงหรือชาย
บอกว่า เราเบาแล้ว สบายขึ้นมาก

เอาวะ คลายจากเปรตแล้ว ปกติต้องเห็นว่า เป็นผีสิ
จากเปรตก็มาเป็นผี แต่ไม่เห็นตัว
ก็ถามไปว่า ท่านๆ ทำไมมาเกิดเป็นเปรตนี่
เสียงเบามาก ต้องอาหูแนบ แนบไปในความมืดนะ
บอกว่า ทำแท้ง

เราก็ พวกสุภาพสตรีที่ไม่พร้อมมีมาตั้งสมัยก่อน สมัยนี้ทำกันมากกว่า เสียอีก
เอาๆ ผ่านไปแล้ว

ก็ใช้วิชาเดิม อุทิศบุญต่อไป อุทิศบุญให้ท่านโมทนา
สักพัก ปรากฏร่างชายผิวดำ อายุสัก 40 กว่า
ดูเหมือนคนใช้แรงงาน เสื้อไม่ได้ใส่ ผมยุ่ง เดินมา แล้วก็มองหน้าเรา
ถามไปว่า ท่านๆ เบาแล้วใช่ไหม
ท่านก็ยิ้ม เสียงเป็นชาย เอาเป็นชายหรือ นึกว่าเป็นหญิง

ท่านเล่ากรรมท่านมาให้ฟังหน่อย
แกก็บอกว่า ผมนี่กับสตรีนางหนึ่งมีความรักกัน แล้วก็ได้เสียเป็นเมียผัว 
จากนั้นหญิงนางนั้น ตั้งท้องและท้องแก่ 
อีท่าไหนไม้รู้ ก็พากันไปเอาเด็กออก

อีตาชายนี่สนับสนุนเต็มกำลัง พอแกพูดมาตรงนี้
ผมก็ทราบทันที่ว่า รูปร่างอีกตาเปรตนี่ เป็นอย่างไร
คือ มีขาเป็นไม้ หลายขา สูงๆ ไม้แบบไม่สมประกอบ
เพราะว่า ผมปีนมาแล้ว หัวกับตัวเป็นส่วนเดียวกัน
คือ เป็นมดลูก ไอ้ที่ผมเข้าไปนั่นละคือ มดลูก
555555555555555 เอาวะ

คือเปรตแบบนี้ ต้องแบกมดลูกไว้ ด้วยขาที่ไม่สมประกอบ
มดลูกเป็นไม้หนักมาก ปากก็ไม่มี คงหิว โหยมาก
แต่ถือว่า กรรมน่าจะน้อยมากแล้ว จึงมาเป็นเปรตที่โลกมนุษย์ อุทิศบุญให้ก็พ้น

ก็คุยกับแกไม่มาก เพราะแกเป็นผีแล้ว ผีที่ทราบว่าตนเคยชั่วนี้ดีกว่า
คนที่ไม่ทราบว่าตัวชั่ว
นิทานเรื่องนี้ ทำให้รู้ว่า ไอ้กรรม ที่ทำครั้งเดียวมันแผดเผา
ชายนี่ สนับสนุนคนรักไปทำแท้ง ก็ไปตกนรกมานานสุดๆ
มีโทษเท่ากับคนทำแท้ง แล้วมาเป็นเปรต 
ดัง คำพูดของพระพุทธองค์ว่า


กตํ ทุกฺกฏํ เสยฺโย ความชั่วอย่าทำเลยดีกว่า

จบนิทานความฝัน ของคนกินมากนอนมากฝันบ้าๆบอๆ

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2562

"เรื่องเล่า ฝันในฝันเทวานิน"...ผีเด็กที่โรงแรม


ผีเด็กที่โรงแรม
....................
เมื่อ วันที่ 5 ธค
ผมมีธุระที่จังหวัดนึง
ผมไปงานศพ คุณแม่ลูกน้อง ไปแบบด่วนและรีบกลับเครื่องวันเสาร์
คือ ไปวันศุกร์ วันเสาร์ก็บินกลับทันที เพราะมี งานบุญที่มูลนิธิหลวงปู่มั่น

วันศุกร์ไป วัดเสร็จ แต่กว่าจะเข้าไปพัก check in ก็ 3 ทุ่มกว่า เหนื่อยมาก
อาบน้ำเสร็จ ก็ทำงานพระศาสนาต่อ จนเกือบเที่ยงคืน
เพราะ เพื่อนๆร่วมบุญมาหลายงาน ต้อง update ตลอด

รอบนี้มา รีสอร์ทที่ห่างจากตัวเมือง น่านอนอากาศดี บรรยากาศ ok
ผมนอนคนเดียว น้องอีกสองคนพักอีกห้อง
ก่อนนอนก็ไหว้พระ สวดมนต์และอุทิศบุญ อันนี้ทำทุกวัน ไม่ขาด

จะนอนแล้วนึกอย่างไร อ่ะ มาต่างที่
เอาพระ คำข้าว สมเด็จองค์ปฐม วางไว้ที่หัวนอน
นอนหลับไป น่าจะตี 3-4 ก็ตื่นมา อากาศกำลังดีไม่ร้อนไม่หนาว
ลุกมาเข้าห้องน้ำ แล้วก็นอนต่อ ok หลับไปสนิท

เตียงที่นอนเป็นเตียงเดี่ยว ใหญ่ดี นอนข้างเดียวด้านขวา
มันรู้สึกว่า มีคนมาดึงผ้าห่ม ดึงสักพักรู้สึกเคลิ้มๆ ยังหลับนะครับ
แต่สักพัก ดึงแรงมากแบบกระชากเลย พอกระชากเท่านั้น
กายในผมหลุดมายืนปลายเท้า ห้องที่มืดสว่างออกหมด

เห็นเด็กชายคนหนึ่ง มองหน้าผมยืนอยู่หัวเตียงอีกด้าน
กำลังกระชาก ผ้าห่ม พอมองเห็นผม ผมก็บอกว่า
คนหรือผี
เด็กก็เงียบ หน้าตาก็เป็นเด็กชาย อายุสัก 4-5 ขวบ

ผมก็เอาไงวะ ผีนิหว่า นี่ผีมาเจอคนบ้า
ไอ้คนบ้าอย่างผมนี่มันแปลก แทนที่จะโกย
มันจะสัมภาษณ์ผี คนปกติเขาไม่ทำกัน เพราะเขาเป็นคนปกติ
แสดงว่า พวกสัมภาษณ์ผี นี่ไม่ปกติคือ บ้า อิอิ

ผมก็ถามว่า ตายนานยังหนู ไอ้หนูมันไม่ตอบ
เออ แทนที่จะช่วยกันทำมาหากิน มาแกล้งเขาไม่ดีนะ
ไม่ตอบ มองหน้าผมแบบ งง
ผมเป็นมันก็ งง ละครับ ปกติผีมาหลอก คนก็ต้องกลัว มันต้องร้องโวย นี่ไอ้บ้า
นี่มายืนสอบถาม 555555555

ผมถามว่า อยู่ที่ไหน ที่รีสอร์ทนี่หรือที่อื่น แบบเวียนมาเจอ
ผีก็ชี้ๆ ไม่ไกลนัก โอ้แถวนั้นมันรกร้างนิหว่า
บ้านคนก็มีนะ แต่ไกลหน่อย

ชื่ออะไรละ?
ผีเด็กตอบว่า "นภดล ..." บอกนามสกุลหมด
ยาว 4 พยางค์ เลยเออ ลุงจำแค่ชื่อแกนะ
นามสกุล ไม่จำ ถึงจำ ก็ไปเล่าให้ น้องๆที่ facebook
(พวกชอบคนบ้า) ไม่ได้ มันไม่ควรจะมาเขียน

ผมถามต่อ ตายอย่างไร ก็รอว่าจะตอบอย่างไร
เอ้าไอ้หนู มันทำกายมันมี จุดๆ ขึ้นเต็มตัว
ออ ออ แบบว่า เป็นโรคอะไรสักอย่างเช่น หัด ไข้เลือดออก
หรือ อีสุกอีใส หรือ อะไรที่ขึ้นเต็มตัว มันจะตายเลยหรือ
หรือคนบ้านนอกไม่ได้ไปหาหมอ พวกไข้เลือดออกก็ตายได้ หรือ เอสด์ว่ะ
ผีก็ไม่รู้มันเป็นเด็ก

ว่ะพึงไม่ได้เลย เป็นผีมันต้องรู้สิ หวยก็ต้องรู้
อะไรว่ะ ตายด้วยโรคอะไรไม่รู้ ทำให้ดูได้
แต่ภาพที่ทำให้ดูน่ากลัวนะครับ
แล้วมันก็เศร้าๆทันที ก้มหน้าเศร้าๆ

เอาละ จะช่วยผีหน่อย
บอกว่า ไอ้หนู มองบนหัวลุง บอกเห็นอะไรไหม
มันบอกไม่เห็น อจ๊ากกกกกกกกกก
นี่สาวๆ มองบนหัวลุง ก็จะเห็นงู
แต่ไอ้เด็กนี่ไม่เห็นอะไร

เอาใหม่ แกลองมองดูนะ
ไอ้เราก็นึกถึงพระสิ นึกถึงว่าสร้างพระมันทุกวันนิหว่า
แล้วฝากพันทธุ์เทพ สร้างสมเด็จองค์ปฐมทุกวัน
บุญเดียวน่าจะพอ ยกพระขึ้นหัว
นึกแบบตัวเราก็ไม่เห็นภาพพระนะ
นึกถึงบุญนะ บุญที่สร้างพระ

แล้วถามมันใหม่ เห็นมะ
เด็กตอบว่า ไม่เห็น
อะไรว่ะ เฮ้ย ผีตัวอื่น พอนึกพระเค้าเห็นกันหมด จะได้โมทนาแล้วไปสวรรค์
เอาว่ะ นึกใหม่ นึกถึงกุศล ทำทานอะไรมา ก็พอทำไปบ้าง
แล้วบอกเห็นไหมบนหัวลุง ยกทานบารมีไว้บนหัว
ยกไว้เหนือหัว เพราะ สังฆทานของสูง มีค่าเหนือหัว
กะว่า มันจะบอกว่า ลุงเยอะจัง

มันส่ายหน้า แป่ว
โอ้ยยยยยยยยยยย ยากโว้ยยยยยยยยย
ใจจริงก็ไม่ยากจะช่วย เป็นผีเด็ก นี่ถ้าผีสาวๆ เออ น่าช่วยหน่อย อิอิ
เอาไงดีว่ะ มันไม่เห็นกุศลเราเลย
ถ้ามันเห็น ก็จะอนุโมทนาได้ จะได้ไปเป็นเทวดา
มันไม่เห็น จนปัญญาแล้ว  เอาว่ะมุกสุดท้าย อธิบาย ก็ได้วะ

นี่ๆไอ้หนู อนุโมทนาหรือยินดีในความดีคนอื่นมันเป็นกุศล
ยินดีว่า คนเขาไปทำบุญมา ทำความดีมา เราเห็นเราก็เออ
ดีแบบนี้ ยินดีเขา พอเรายินดี กุศลที่ยินดีก็เกิดที่จิตเรา
เราก็เบากายเบาใจ แบบนี้ เข้าใจไหม
ทำเป็นม่ะ ลองทำใจดู ไอ้หนู

มันส่ายหน้า จ๊ากกกกกกกกกกกกก
ผีเด็ก 4-5 ขวบ มันไม่เข้าใจว่ะ เพิ่งตายความรู้อะไรก็ไม่มี
มันก็เวียนๆรออยู่แถวนั้น
โอ้ย พอก่อน ก็บอกว่า เอาแค่นี้ ลุงช่วยแกไม่ได้
แกก็อย่าไปแกล้งใครนะ มันไม่ดี อยู่ในส่วนแก

มันมองหน้า แล้วบอกว่า จะไปกับลุง

อจ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เฮ้ย แกมันเด็กชาย ถ้าเด็กสาวรุ่นละพอไหว
เลี้ยงแกนี่ไม่ได้ เทวานิน ไม่เลี้ยงผี
ทำแต่กุศล ผีก็อยุู่ส่วนแก เทวดาละเอา ผีไม่เอา
โว้ยยยยยยยยยยยยย มีโวยวายใส่ผี
นี่แสดงว่า คนบ้าจริง

มันมองที่เท้าแล้วบอกว่า จะตามไป

ว่าจะด่าแล้ว เดี๋ยวว่าใจร้าย นึกบอกว่าแกมาก็เข้าบ้านไม่ได้
บ้านลุงมียามเฝ้า เข้ามายามก็ถาม เดี๋ยวโดนยามเต๊ะ กระเด็น
ตัวใครตัวมันนะ แกก็ประคับประคองไปจน หมดอายุแล้วค่อยไปเกิด
ช่วยไม่ได้ ว่ะ case นี้

เช้ามา ตื่น ผมก็รอฟังน้องๆที่พัก
น้องบอกมีคนมาเดินรอบเตียง และเห็นเงาคนเข้าห้องน้ำ นั่นอีกห้อง
ผมอมยิ้มเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรเดี๋ยวน้องกลัว
วันนี้ไปทำบุญหลายที่ก็ลืมอุทิศบุญให้นะ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไอ้คำว่า ยินดีในความดี หรือ มุฑิตา/อนุโมทนา
นี่มันไม่ง่ายสำหรับคนที่ไม่เคยเข้าใจ
ฉะนั้น คนเราต้องทำความดีไว้ และ ฝึกใจให้ยินดีในกุศลที่คนอื่นทำด้วย

ขำขำนะครับ คนแก่ฝัน อย่าถือสา คนบ้าๆบอๆ คุยในกันหมู่เพื่อน

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2562

"เรื่องเล่า ฝันในฝันเทวานิน" ไปยังไง มายังไง?

         
           "เรื่องเล่า ฝันในฝันเทวานิน"  ไปยังไง มายังไง? ผมคงต้องเล่าถึงเจตนา ของพี่เทวานิน ก่อนนะครับว่าทำไมพี่ท่านถึงเอาเรื่องเล่าในฝันมาลงในเพจของพี่เขา
          พี่เทวานิน เป็นผู้ที่อุทิศตัวเองในการช่วยเหลือพระพุทธศาสนา มาตั้งแต่เมื่อไหร่ อันนี้ผมเองก็ไม่เคยทราบ และไม่เคยได้ถามไถ่พี่ท่านมาก่อน แต่เชื่อว่าน่าจะนานพอสมควรแล้วหล่ะครับ เคยบวชเป็นพระมาแล้ว และได้ทำบุญสร้างกุศลมามากมาย รวมทั้งได้ตั้งเพจบุญ (ใครอยากทราบเพจกลุ่มบุญนี้ หลังไมค์มาสอบถามได้ครับ ไม่กล้าออกตัวแทนกลัวพี่เขาวุ่นวายครับ)เพื่อรวบรวมผู้มีจิตศรัทธา ทำงานเพื่อพุทธศาสนา บอกบุญ ช่วยเหลือพระ วัด ทำทาน ปล่อยสัตว์ ต่ออายุสัตว์ต่างๆ เรียกว่าเป็นกองทุนในการช่วยเหลือ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และเชื่อมสายบุญให้กับเหล่าญาติธรรม กัลญาณมิตร นักสร้างบุญ สร้างบารมี ทั้งหลายได้สั่งสมบุญบารมีกัน
          พี่เทวานินเริ่มเอาเรื่องเล่าความฝันของตัวเอง มาเล่า เขียนลงในเฟสบุญ ตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่ทราบครับ แต่ผมเองเป็นคนที่ชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้วครับ ตั้งแต่เริ่มเห็นข้อเขียนเรื่องเล่านี้ ผมก็เลยไม่ค่อยพลาดในการติดตามอ่านมาตลอด โดยที่เจตนาในการเล่าเรื่องความฝันนี้ของพี่เทวานิน คือ เพื่อให้เป็นข้อคิด ความรู้ กำลังใจ และเตือนสติ พวกเราว่า นรก สวรรค์ กรรม ภพชาติ นั้นมีจริง ผ่านความฝันของพี่เขา ส่วนท่านผู้อ่านจะคิดพิจารณายังไงก็ตาม เป็นวินิจฉัยส่วนตัวของแต่ละท่านนะครับ เชื่อก็ให้เกรงกลัวในบาป แล้วนำไปปฎิบัติ ก็จะเกิดเป็นผลบุญกุศลต่อไป ไม่เชื่อก็ข้ามๆไปนะครับ
          ผมจะลงเรื่องเล่านี้โดยการก๊อปปี้ข้อความ ข้อเขียน มาโดยไม่ตัดทอน(สรุป ขออนุญาติพี่ท่าน มาแล้วนะครับ) ส่วนภาพประกอบ ผมจะพยายามทำขึ้นเองบ้าง อาจจะใกล้เคียงแนวเรื่องหรือไม่ใกล้เคียงบ้าง คงไม่ว่ากันนะครับ เพราะรูปภาพประกอบของที่อื่นผมกลัวลิขสิทธ์ในภายหลังครับ ส่วนลำดับเรื่องอาจจะเรียง หรือไม่เรียง ตามวันเวลาที่พี่เทวานิน ฝัน คงไม่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญมากนัก
          หากข้อเขียนบทความเหล่านี้ ยังประโยชน์กับผู้ที่เข้ามาอ่านแล้วละก็ ขอให้ผลบุญกุศล เจตนานี้ จงบังเกิดกับ พี่เทวานิน บิดา มารดา ญาติมิตร ครูบา อาจารย์ เทวดาประจำตัว หรือที่คอยดูแลช่วยเหลือ เทวดาผู้นำพาเจ้าของเรื่องพาทัวร์ อีกทั้งเทวดา และหรือสัมภเวสีเจ้าของเหตุการณ์  ตลอดจนท่านเจ้ากรรม นายเวร คู่กรรม คู่เวรทั้งหลาย ของข้าพเจ้า จงได้อนุโมทนา และมีส่วนในบุญนี้ด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้นครับ